Saturday, December 29, 2007

Congratulation Myself

“รักแห่งสยาม” หนังรักวัยรุ่นสุดอบอุ่นต้อนรับลมหนาว

คุณเคยมีความรักหรือไม่.. และความรักแบบไหนเคยเกิดขึ้นกับคุณ.. อีกไม่นานทุกคำตอบจะเกิดขึ้นกับทุกหัวใจ สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนลจะพาคุณไปพบกับเรื่องราวความรักหลากหลายรูปแบบที่ถูกโยงใยโดยมิตรภาพ และถูกถ่ายทอดผ่านบทเพลงรักที่จะทำให้ทุกคนได้สัมผัสกับช่วงเวลาอบอุ่น ในภาพยนตร์รักโรแมนติกที่เชื่อกันว่าดีที่สุดแห่งปี “รักแห่งสยาม” ผลงานชิ้นเอกของผู้กำกับ ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล (ผู้เคยฝากผลงานสร้างชื่อทั้งไทยและต่างประเทศมาแล้วใน 13 เกมสยอง)

นำทีมโดยนักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่ มาริโอ้ เมาเร่อ นายแบบวัยรุ่นสุดฮอตพร้อมเหล่านักแสดงรุ่นใหม่อีกมากมาย อาทิ วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, อธิชา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์, กัญญา รัตนเพชร์ ที่จะมาถ่ายทอดมิตรภาพและความรักที่เกิดขึ้นที่สยาม (สแควร์) สถานที่พบปะกันของเหล่าวัยรุ่น คู่รัก และเพื่อนฝูง รวมถึงการเจอกันครั้งแรกในภาพยนตร์ของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างสินจัย เปล่งพานิช, ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี และ เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์

รักแห่งสยาม เล่าเรื่องของหลายคู่รักที่โยงใยกัน เริ่มจาก โต้ง (มาริโอ้ เมาเร่อ) เด็กชาย ม. 6 หน้าตาดี มีแฟนสวยมากจนเพื่อนๆ และผู้ชายทั้งสยามต้องอิจฉา แต่ใครจะรู้ว่าความสดใสและน่ารักของ “โดนัท” (อธิชา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) สำหรับโต้ง เริ่มจะกินไม่ได้เสียแล้ว...

ในขณะที่ “มิว” (วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล) เด็กชายวัยเดียวกันผู้มีพรสวรรค์ทางดนตรี แต่ไม่เคยได้สัมผัสกับความรักมานานตั้งแต่อาม่าตายจากไป ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับโจทย์ “เพลงรัก” ที่มิวต้องแต่งให้กับ ”วงออกัส” วงดนตรีของตัวเองเพื่อนำไปเสนอกับค่ายเพลง ...ในเวลาเดียวกับที่ “หญิง” (กัญญา รัตนเพชร์) เพื่อนบ้านของมิวก็คอยเป็นกำลังใจและแอบมองมิวอยู่ห่างๆ แต่มิวก็ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกที่หญิงมีต่อตัวเองเลย

....และแล้ววันหนึ่ง สยาม ก็เป็นที่ที่ทำโต้งและมิวก็ได้เจอกันอีกครั้ง หลังจากที่ขาดการติดต่อกันมานานตั้งแต่โต้งย้ายบ้านไปตอนเด็ก มิวแนะนำโต้งให้รู้จักกับ จูน (พลอย เฌอมาลย์) คนดูแลวงดนตรีของมิวที่หน้าตาเหมือนกับ แตง พี่สาวของโต้งที่หายตัวไปสมัยที่เขายังเด็ก โต้งจึงคิดแผนให้แม่ “สุนีย์” (สินจัย เปล่งพานิช) จ้างจูนปลอมตัวเป็นแตงเพื่อมารักษาอาการติดเหล้าให้กับพ่อ “กร” (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) การเข้ามาของจูนทำให้ครอบครัวโต้งดีขึ้น ในขณะที่เพลงรักของมิวก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น...

เตรียมพบกับเรื่องราวหลากความรัก ของหลายชีวิต ที่จะพาคุณไปพบกับความอบอุ่นรับลมหนาว... 22 พฤศจิกายนนี้ สยามจะอบอุ่นไปด้วยรัก ทุกโรงภาพยนตร์


ลองถามตัวเองสักครั้ง ว่าฟังเพลงรักแล้วคิดถึงใคร

เมื่อมีความรัก….ย่อมมีความหวัง

“รักแห่งสยาม” เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกแห่งปีที่มีเพลงรักน่าจดจำหลายเพลง จนไม่อาจปฏิเสธว่า มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ และนักแต่งเพลงคนนี้กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเพลงและวงการภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กัน กับผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ไพเราะและซึ้งกินใจ และยิ่งไปกว่านั้นเพลงทุกเพลงกำลังบอกเล่าความรู้สึกของตัวละครเอกได้อย่างตรงไปตรงมา

“รักแห่งสยาม” เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยความรักที่เกิดขึ้นกับหลายชีวิต หลายกลุ่มคน ที่เกาะเกี่ยวและโยงใยกันอยู่ในรูปแบบของความรักที่แตกต่าง ด้วยแรงปรารถนาแห่งรักที่ถูกบ่มเพาะมานานกว่า 4 ปีเต็มของผู้กำกับคนนี้ ถูกขัดเกลาจนกลายเป็นบทภาพยนตร์รักชั้นดี

“รู้สึกว่าอยากทำหนังรักเรื่องหนึ่งที่มันไม่ใช่หนังรักแบบทั่ว ๆ ไป มุมมองความรักในแบบของเราคือ ความรักมันสำคัญกับชีวิตของเรายังไงมากกว่า ถ้าเราไม่กินข้าวเราตาย แต่ไม่มีความรักเราอยู่ได้ แต่ชีวิตจะเป็นยังไงถ้าไม่มีความรักเลย นี่คือไอเดียแรกที่เราอยากจะทำหนังรักเรื่องหนึ่งที่พูดถึงความสำคัญของรักต่อการมีชีวิต ก็เลยเริ่มเขียนบทรวบรวมเรื่องราวของคนที่ผ่านเข้ามา คนที่เราเคยเจอในความทรงจำ ก็ค่อยๆเขียนค่อยๆขัดเกลา ใช้เวลาเรียนรู้อะไรประมาณหนึ่งถึงจะเข้าใจอะไรบางอย่างจนได้เป็นบทหนัง ซึ่งก็ใช้เวลานานเหมือนกัน เพราะเราก็เขียนไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่หนังยังไม่สร้าง มันก็จะมีเรื่องราวใหม่ๆ เข้ามาอีก”

ไอเดียแรกแห่งรักถูกพัฒนาขึ้นไปพร้อมๆกับภาพในหัวที่อบอวลไปด้วยความรักในรูปแบบต่างๆ และเรื่องราวส่วนใหญ่ก็เกิดขึ้นที่นี่แห่งนี้ ‘สยามสแควร์’ ซึ่งจะกลายเป็นฉากหลักในเรื่อง “รักแห่งสยาม”

“ทำไมต้องรักแห่งสยาม หลายๆ คนจะเข้าใจว่าเป็นหนังโบราณรึเปล่าสยามประเทศ แต่รักแห่งสยามของเราคือสยามสแควร์นี้เอง เหตุที่เป็นสยามสแควร์เพราะว่าตอนที่เราเริ่มเขียนบท ตอนนั้นจริงๆ เราเพิ่งอยู่มหา’ลัย อยู่จุฬา แล้วสยามก็เป็นที่ที่ไปประจำ แล้วก็ได้พบเห็นคู่รักมากมาย วัยรุ่นมากมายเต็มไปหมด แม้กระทั่งคนวัยทำงาน คนมีครอบครัวแล้วเค้าก็เดินสยาม มันเป็นสถานที่ในความทรงจำของหลายๆ คน เช่นเดียวกับตัวละครทั้งหลายในเรื่องนี้ เค้าพบรักกันที่สยาม เค้าอาจจะเลิกกันที่สยาม ไปเที่ยวกันที่สยาม เคยหัวเราะเคยร้องไห้ เคยมีความสุขกันในสยาม รู้สึกว่าสยามมันคลาสสิค แล้วมันก็ไม่ได้ถูกบอกเล่าในหนังไทยมานานแล้ว ดังนั้นก็เลยใช้สยามเป็นฉากหลังของหนังเรื่องนี้ ซึ่งสยามก็กลายเป็นที่ที่ตัวละครในเรื่องหลายๆ ตัวมาเจอกัน และมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย”





Source: http://www.theloveofsiam.com/madiew/

Nikon Day 2007

My Cat

Rest Life at the Park

Thammasart U